
บทสัมภาษณ์ คุณหมอแหววกับนิตยสาร C.Life issue 34 November 2015
พญ. เพ็ญลดา ครุธโกษา (หมอแหวว)
She’s so Cool
บทสัมภาษณ์ : ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวตัวยาวของคุณหมอแหวว ที่นอกเหนือจากการทำหน้าที่แพทย์ผู้บริหารคลินิกความงาม AIME ที่มีอยู่ 5 สาขานั้น เธอก็ยังหลงใหลในเสน่ห์ของการเดินทาง และมีฮ็อบบี้โปรดคือการขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันโต และการขี่ม้า รวมถึงกิจกรรมการออกกำลังแบบ outdoor อีกหลายอย่าง อาจจะดูแตกต่างอย่างสุดขั้วกับกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำงานด้านสวยงามงาม หากแต่เธอก็ยังจัดสรรความสมดุลของชีวิตได้อย่างลงตัว
“หมอเรียนอยู่ก็ทำงานรับจ๊อบในคลินิกความงาม เราก็ชอบความงาม และขณะเดียวกันก็ชอบกีฬากลางแจ้ง ชอบขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ เราก็พยายามหาอะไรที่ทำให้เราไม่ผิวดำคล้ำจากการเล่นกีฬาแบบนั้น หรืออะไรที่ทำให้หน้าเราดูดี พอหมอทำงานคลินิกประมาณ 5 ปีก็เลยคิดเปิดคลินิกของตัวเอง เปิดได้ปีแรกรู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้นัก เช่น บางคนอยากมีจมูกที่โด่งขึ้น แต่ว่าการฉีดฟิลเลอร์ก็ยังไม่ใช่สำหรับบางคน ฟิลเลอร์จะเหมาะกับการเติมจมูกที่พอมีดั้งอยู่บ้าง เราต้องพยายาม ที่จะ present สิ่งที่ดีให้กับคนไข้ ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ ก็เลยเริ่มเปิดแผนกศัลยกรรมได้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา”
กว่า 3 ปีที่ดำเนินธุรกิจเป็นเจ้าของกิจการความงาม พบปะคนไข้ที่มาเป็นลูกค้ามากมาย ก็ต้องมีจรรยาบรรณแพทย์ในการทำงาน ใช่ว่าจะทำธุรกิจโดยยึดติดแต่เพียงรายได้อย่างเดียว ดังนั้นบ่อยครั้งคุณหมอยังให้ข้อคิดความงามในแบบที่พอดีกับลูกค้าของเธออยู่เสมอ
“หมอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสวยในแบบของตัวเอง ก่อนที่จะเข้ามาหาหมอเพื่อทำอะไร อยากให้คิดก่อนว่าเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงใบหน้าเราไปเลยหรือไม่ เหมือนการเปลี่ยน identity เลยหรือเปล่า จะดีจริงหรือ ? การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าเราก็ทำได้ล่ะ หมอทำได้หมด อีกอย่างคือจริงๆ แล้วในเรื่องบริการทุกคลินิกก็คล้ายกันเราจึงสร้างความแตกต่างในด้านคาแรคเตอร์ของตัวหมอเอง และจะสร้างองค์กรที่ไม่ยัดเยียดการขาย ให้ข้อมูลตามจริง ให้ลูกค้าเลือกเองว่าอยากจะรักษาแบบไหน เราจะจัดแพ็คเกจให้เหมาะสมกับความต้องการและบัดเจ็ทของแต่ละคน สำหรับอัตราค่าบริการในคลินิกเป็นราคามาตรฐาน ไม่ได้ถูกมาก แต่ก็ไม่ได้แพง ราคาที่ทุกคนสามารถเข้ามารับบริการได้ เพราะเราใช้ยาที่มีคุณภาพสั่งมาจากบริษัทนำเข้าในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
ความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งในการผันตัวเองมาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามนั้น คือ การได้รับคำชื่นชมและความยินดีของคนไข้ ความสุขที่ได้สร้างสรรค์ความงามแบบใหม่ให้แต่ละคนดูดี
“คนเป็นหมอทุกคนก็คือ อยากช่วยคน แต่พอเรามาทำทางด้านความงาม ถือว่าเราก็ได้ช่วยคนเหมือนกัน คนที่ทำแล้วดูดีขึ้น เค้าก็มีความสุข เช่นคนอกหัก พอมาทำแล้วมีหนุ่มมาขอแต่งงาน คนไข้ก็มาขอบคุณ อันนี้คือความภาคภูมิใจที่สุดในอาชีพ หมอมีความสุขทุกครั้งที่คนไข้กลับมาเล่าให้ฟังว่าการที่เขาสวยขึ้น ทำให้เขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปขนาดไหน มีเคสหนึ่งที่เหมาะประทับใจมาก”
จากความสุข ความยินดี บวกกับความรักในสายอาชีพ ทำให้กลายมาเป็นที่มาของคำว่าเอเม่คลินิก สถานที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ทั้งการบริการและไม่ติดต่อลูกค้าทุกคน
“ชื่อคลินิก Aime เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ความรัก” หรือ “ที่รัก” ที่เรียกชื่อนี้เพราะหมอเลือกที่จะทำการรักษาที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามด้วยความรักค่ะ รักที่จะให้บริการกับทุกคนด้วยความเอาใจใส่ โดยหวังว่าคลินิกของหมอจะเป็นที่รักของทุกคน”
หากย้อนถามกลับไปว่าตอนนี้มีกิจการคลินิกความงามเปิดถึง 5 สาขาให้ดูแล เธอยังมีเวลารถเล่นไปกับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบไหม แน่นอนว่าคำตอบย่อมไม่เหมือนเดิมในเรื่องของเวลา เพราะแต่ละสัปดาห์ต้องวิ่งรอกดูแลทุกสาขา ซึ่งมีทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
“หมอเองก็เดินทางทุกสาขา แบ่งเวลาไปที่ลาดพร้าวบ้าง ห้วยขวางบ้าง ราชพฤกษ์บ้าง และไปจังหวัดจันทบุรี จังหวัดเพชรบุรี อยากดูแลความเรียบร้อยด้วยตัวเอง ซึ่งแต่ละสาขาก็ขับรถไปเอง และวันที่คุณหมอไม่ได้อยู่ก็จะมีคุณหมอทีมงานอยู่ดูแล จริงๆ การขยายสาขาเร็วส่วนหนึ่งมาจากโอกาสด้วย หลังจากนี้ก็มีแผนว่าจะไปโปรโมทประเทศเพื่อนบ้าน แล้วพาคนต่างชาติเข้ามาทำที่คลินิกในไทยมากกว่าไปเปิดสาขาที่โน่น
ส่วนอนาคตที่วาดฝันไว้ คือ หมออยากทำให้ความงามครบวงจร ความงามที่มากับสุขภาพ มาพร้อมกับความเฮลตี้ อยากให้มีครบทุกอย่างในที่เดียว ทั้งสปา ฟิตเนส ไคโรแพรคติก เป็นอะไรที่คนไม่ต้องป่วยก็มาใช้บริการ”
พญ. เพ็ญลดา ครุธโกษา หมอแหวว
การศึกษา : แพทย์ศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต
แพทย์ศาสตร์ศิริราช (เฉพาะทางด้านพยาธิวิทยากายวิภาค) มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำแหน่งปัจจุบัน : เจ้าของธุรกิจความงาม Aime Clinic