สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้มิ้นจะมารีวิวพัฒนาการของตัวเอง ตั้งแต่เด็กจนโตนะคะ เผื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้คนที่คิดอยากเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาตัวเอง ถือซะว่ามิ้นมาช่วยปลุกความเชื่อมั่นที่มันหลับใหลอยู่ในตัวคุณให้ตื่นก็แล้วกันนะคะ เพราะมิ้นเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพ หากถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและพร้อมที่จะลงมือทำ ไม่หยุดอยู่ที่การมโนวาดฝันในอากาศ ยังไงเราก็ทำได้ค่ะ ^^
อย่างตัวมิ้นเองเป็นเด็กต่างจังหวัดเกิดและโตที่จังหวัดนครพนม ตอนเด็ก ๆ ก็เป็นเด็กอ้วนจ้ำม้ำ หน้าสิว ดั้งแหมบ ตาก็ไม่เท่ากัน เป็นเด็กผู้หญิงทั่วไปที่ชอบทำกิจกรรม เป็นนางรำ เป็นดัมเมเยอร์ ลงแข่งวาดภาพ เป็นประธานนักเรียน คือเป็นทุกอย่างที่โรงเรียนเค้ามีให้เป็น เรื่องความสวยความงามนี่ไม่ค่อยรู้กับเค้าหรอกว่าเป็นยังไง สนใจอย่างเดียวแค่การเป็นเด็กกิจกรรม มีผลงานเยอะๆ เพื่อเอาไปยื่นสอบสัมภาษณ์ตอนเข้าเรียนมัธยมจะได้มีอะไรมากกว่าคนอื่นเค้า คือคิดแค่นี้จริงๆฮ่าๆ
พอเข้ามัธยมมิ้นก็ถูกจับไปเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลตั้งแต่ม.ต้น เนื่องจากเป็นคนตัวใหญ่ สูง 5555 เป็นกีฬาแมนๆ ทิ้งความเป็นหญิงไปเลย เรื่องสวยๆงามๆแบบที่ผู้หญิงควรจะมีนี่ก็ลืมไปได้เลยเหมือนกัน วันๆมีแต่ซ้อมกีฬา ทำได้เพียงแอบมอง แอบปลื้มรุ่นพี่ผู้หญิงที่เค้าสวยๆกัน พอมองนานๆ ไป ความคิดที่ว่าอยากจะสวยแบบพี่ๆ เค้าบ้างก็เริ่มเกิดขึ้น
และด้วยความที่คุณพ่อมิ้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลนครพนม มีอยู่ปีนึงทางเทศบาลนครพนมจัดการประกวดนางสงกรานต์ จึงขอความร่วมมือจากทางภาครัฐส่งตัวแทนเข้าร่วมประกวด ทางโรงพยาบาลนครพนมจึงติดต่อมาทางคุณพ่อมิ้นว่าจะส่งมิ้นเข้าประกวดนะ….เห้ยย คือแบบเราดีใจมาก เพราะตอนเด็กๆ นี่ชอบดูการประกวดนางงามกับคุณแม่มากๆ ดูตั้งแต่ต้นจนจบ ดูทุกเวที ดูทุกปี ติดตามทุกปี เลยซึมซับว่าโตขึ้น ฉันจะเป็นนางงาม แน่ล่ะพอได้มีโอกาส ก็เข้าทางมิ้นสิ่คะงานนี้ 5555 เราตั้งใจซ้อมเดิน ซ้อมไหว้ แม้แต่ท่ายืนรับสายสะพาย รับมงกุฎก็ยังซ้อมนะเออ ความมั่นใจเต็มร้อยจ้า555 พอถึงวันประกวด…ปรากฏว่า… ตกตั้งแต่รอบแรกจ้า
หลังจากนั้นมาก็เริ่มดูแลตัวเองบวกกับว่าตอนนั้นมีความรัก แอบชอบรุ่นน้องคนนึงเลยเริ่มอยากสวยละ อย่างดูดีละ เอาวะถ้าเราเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราสวยขึ้น ดูดีขึ้น ได้ทำกิจกรรมโรงเรียนน้องเค้าต้องสนใจเราบ้างหล่ะ พอขึ้นม.ปลายเราก็ไปคัดเลือกนางรำ จนได้เป็นนางรำของโรงเรียน ได้เข้าสู่เส้นทางความสวยความงามกันบ้าง แถมได้รับคัดเลือกให้ถือป้ายโรงเรียนด้วย เรียกได้ว่าทำทุกอย่างให้เด่น ให้เป็นแนวหน้าของโรงเรียน เผื่อน้องเค้าจะได้สนใจ จะได้ปลื้มเราบ้าง… ยังเด็กอยู่หาตังค์เปย์ไม่ได้ ก็ใช้วิธีนี้หล่ ะฮ่าๆๆๆ มโนไปเรื่อย แต่ได้ผลนะจ๊ะเธอ ^^ ถึงไม่ได้คบกันแต่ได้คุยก็ถือว่ามิชชั่นคอมพลีทหล่ะนะ
จากนี้คือการเริ่มปฏิวัติตัวเองของมิ้นแล้วนะคะ…ซึ่งการทำสวยครั้งแรกของมิ้นก็คือการจัดฟันค่ะ ด้วยความที่ว่าเรากำลังจะจบม.6 และจะไปเป็นเฟรชชี่ในรั้วมหาวิทยาลัยอ่ะนะ และมิ้นก็เลือกที่จะกินยาลดความอ้วนด้วย ก็เด็กน้อยอ่ะเนอะ เห็นเขาบอกว่าผอมเร็ว ผอมนาน ซึ่งช่วงที่กินมันก็ผอมอ่ะค่ะ แต่หยุดกินมันดันโยโย่เอฟเฟค จากน้ำหนักก่อนกินยามิ้นเคยหนัก 54 กิโลกรัม ในช่วงที่กินยาน้ำหนักลดเหลือ 50 กิโลกรัม (ผอมสุดในชีวิตละ) พอเลิกกินยา น้ำหนักพีคขึ้นมาเป็น 64 กิโลกรัม แม่เจ้า!!! แล้วฉันกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยนะแก T^T อยากใส่ชุดนักศึกษาตัวเล็กๆ ใส่กระโปรงทรงเอ โธ่!!! ฝันสลายดอกฝ้ายบานเลยมั้ยหล่ะมิ้นเอ๊ยย
หลังจากเข้าปี 1 มาในสภาพ 64 กิโลกรัม ก็กลายเป็นน้องใหม่ที่ได้ฉายา แมมมอธบ้างหล่ะ ช้างน้ำบ้างหล่ะ น้องพยูนบ้างหล่ะ แต่ละอันน่ารักทั้งนั้น… คนล้ออ่ะสนุกแต่คนถูกล้อเค้าไม่สนุกด้วยเลย อยากจะด่ากลับก็ทำไม่ได้ รุ่นพี่ทั้งนั้น เราก็ทำได้แค่หัวเราะสนุกๆ ไปและเก็บมันไว้ในใจ นานวันเข้าคำล้อต่างๆ เริ่มกลายเป็นปม เกิดเป็นความแค้นที่อยากเอาชนะ !! “คอยดูนะฉันจะลดน้ำหนักและเปลี่ยนตัวเองให้ได้” นี่หล่ะจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเองหล่ะ
มิ้นเริ่มลดน้ำหนัก แบบค่อยเป็นค่อยไป จาก 64 กิโลกรัม ลดลงมาเหลือ 58 กิโลกรัมแล้ว พอจัดฟันเสร็จก็มีพี่เลี้ยงนางงามเป็นของตัวเอง ได้ไปเดินสายประกวดตามเวทีตามจังหวัดต่างๆ ได้ค่าขนมเล็กๆน้อยๆเก็บเป็นประสบการณ์
แต่เวทีที่เป็นความสำเร็จสูงสุดของมิ้นก็คือ นางสาว มิ้นสามารถเอาชนะสาวงามจากทั้งหมด 67 คนได้ แต่การได้ตำแหน่งมาก็ค้านสายตาของพี่เลี้ยงหลายๆค่าย บ้างก็ว่าไม่เหมาะสม ไม่สวย อีเหงือก อีอ้วน ตอนนั้นมิ้นค่อนข้างโดนกระแสในแง่ลบมากทีเดียว มีคนบอกว่ามิ้นใช้เส้นบ้างหล่ะ จ่ายใต้โต๊ะกรรมการบ้างหล่ะ ถึงได้ตำแหน่ง ซึ่งความจริงแล้วมิ้นได้ตำแหน่งมาด้วยความสามารถของมิ้นเอง การตอบคำถามและทัศนคติของมิ้นทำให้มิ้นได้ตำแหน่งนี้มา จึงเป็นที่ขนานนามของพี่เลี้ยงว่า นางไม่สวยก็จริง แต่อย่าให้นางได้จับไมค์ เอ๋า!!!!!
การมีตำแหน่งที่ใหญ่ขนาดนี้ ด้วยภาระ และหน้าที่ของนางสาวขอนแก่น ทาให้มิ้นต้องพิสูจน์ตัวเองหลายๆอย่าง เพื่อเอาชนะคำดูถูกจากหลายๆคน มิ้นต้องเป็นหน้าเป็นตาให้กับทางจังหวัด เป็นหน้าเป็นตาให้กับทางมหาวิทยาลัย มิ้นจะมาเป็นยัยอ้วนดำ ล่ำบึ๊ก แบบเดิมไม่ได้แล้ว มิ้นเริ่มดูแลตัวเองอย่างจริงจัง มิ้นออกกาลังกาย เข้าฟิตเนส ลดน้ำหนัก และเริ่มทำศัลยกรรม ทำจมูก ทำฟัน เมื่อเราสวยขึ้น ดูดีขึ้น โอกาสในชีวิตก็มีมากขึ้น มิ้นได้โอกาสแสดงภาพยนตร์ของลาวด้วยนะคะ เป็นงานใหญ่อีกงานนึงของชีวิตมิ้นเลย
แต่สิ่งที่มิ้นอยากทำมานานมากๆ ก็คือตา2ชั้น เพราะมิ้นเป็นคนที่มีชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน มิ้นหาข้อมูลมาก็นานไม่เจอคลินิกไหนถูกใจซะที แถมไม่มีคนใกล้ตัวให้ปรึกษาด้วยว่าไปทำมาแล้วเป็นยังไงบ้าง โครงการทาตาสองชั้นของมิ้นก็เลยถูกดองไป จนมิ้นได้มาทางานที่จังหวัดอุดรธานี ดันมีคลินิกก็เพิ่งมาเปิดสาขาใหม่ที่ยูดีทาวน์ และมีน้องที่รู้จักเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ แล้วนางสวยขึ้นเยอะมาก!!! มิ้นจึงได้เริ่มศึกษาอ่านรีวิวของคลินิกนี้ ประจวบเหมาะกับตอนนั้นมีประกวด Aime smart idol ของคลินิกเพื่อเฟ้นหาคนสวย คนหล่อมาเป็นตัวแทนความสวย ประจำที่สาขาอุดรธานีอยู่ด้วย ได้ยินคำว่าประกวดทีไร มันเหมือนมีแรงขับเคลื่อนซะทุกที เรียกได้ว่าการประกวดมันอยู่ในสายเลือดไปแล้ว 555 มิ้นจึงตัดสินใจว่า เอาวะ เป็นไงเป็นกัน เข้ารับการทำศัลยกรรมตาสองชั้นกับคุณหมอนุ๊ก ซึ่งคุณหมอมือเบามาก โดยเคสของมิ้นจะเป็นเคสแผลสั้นและตัดไขมันนะคะ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
(ชั้นตาจะไม่เท่ากันเนื่องจากยังบวมยาชาอยู่ และพังผืดใต้ตาไม่เท่ากันทาให้ชั้นตาบวมไม่เท่ากัน)
ภาพหลังทำศัลยกรรมตาสองชั้นได้ 1 เดือน จะเห็นได้ว่าตาดูหวานขึ้น แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ถูกใจมากๆเลยหล่ะค่ะ
สำหรับใครที่มีโครงการทำตา มิ้นมีคำแนะนำและการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด ตา2ชั้น มาฝากเพื่อนๆด้วยนะคะ
- ควรนอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ) ประคบเย็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทาได้ 1-2 วัน เพื่อลดอาการบวม และควรพักสายตา ใช้ไม้พันสาลีชุบน้ายาสะอาดเช็ดคราบเลือดและสิ่งสกปรกออก โดยเช็ดอย่างเบามือ วันละ 2 – 3 ครั้ง และเช็ดเมื่อมีคราบเลือดออกมา
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่นไส้ อาเจียนแน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
- ควรงดสุราหรือบุหรี่2อาทิตย์ หลังผ่าตัด
4. อาจจะมีน้ำตาไหลตลอดเวลาสักระยะหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่โดนลม แต่จะหายไปภายในไม่กี่อาทิตย์ แค่ทาตามคำแนะนำแผลก็จะหายเร็ว ตาก็จะยุบบวมได้เร็วขึ้นนะคะ
ปัจจุบันมิ้นเป็น Aime smart idol ประจำสาขาอุดรธานี มิ้นต้องขอขอบคุณ คุณหมอเจ้าของคลินิกซึ่งก็คือคุณหมอแหววและ ขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ให้โอกาสที่ให้โอกาสมิ้นได้รับตำแหน่งนี้ จากอีช้างน้ำ อีแมมมอธในวันนั้น คือแรงผลักดันให้เรามุ่งมั่นพัฒนาดัวเองให้ดูดีขึ้นได้ในวันนี้
มาถึงตรงนี้แล้วหวังว่าเรื่องราวของมิ้นจะเป็นแรงบัลดาลใจให้คนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งกว่าจะมาไกลขนาดนี้ได้ต้องใช้ทั้งความพยายาม ความอดทน และอะไรอีกมากมาย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆถ้าเราไม่เริ่มทำอะไร การมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดีก็ทำให้มิ้นมีโอกาสต่างๆในชีวิตมากขึ้น การเลือกคลินิกที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่เรื่องสำคัญมากๆนะคะ สำหรับรีวิวนี้คงต้องจบลงเพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านกันค่ะ 🙂